การขอพร ครูบาแสงหล้า ชี้ ! ไม่มีหรอกพร..อยากได้ต้องทำเอง !
“ไม่มีหรอกพร..อยากได้ต้องทำเอง”
โอวาทธรรมโดย ครูบาแสงหล้า
เมื่อ 4 ปีที่แล้วสมัยยังเป็นนักศึกษา
ดิฉัน มายทาม คณพศ ได้เดินทางไปประเทศพม่า
กับเพื่อนชาวเมียนมาร์
มีโอกาสได้ไปกราบครูบาแสงหล้า
ณ วัดที่ท่านพำนัก ต.ท่าขี้เหล็ก
ครั้งแรกที่ได้พบท่านั้น
รู้สึกว่าท่านเป็นพระที่มีความสง่างามมาก
บอกไม่ถูก ทั้งๆที่ท่านก็ชราภาพมากแล้ว
แต่ท่านก็งาม และ สงบเยือกเย็น
ตอนนั้นเป็นโอกาสดีมากที่ขณะนั้นไม่ค่อยมีคน
ดิฉันและเพื่อน ๆจึงมีโอกาสได้สนทนาอย่างเป็นส่วนตัว
พวกเราเคยขอ “ของดี” จากท่าน
ท่านก็บอกว่า ..ไม่มีหรอกของดี !
แล้วท่านก็ยิ้มอ่อน ๆ
จากนั้นหนึ่งในพวกเรา
ก็เลยบอกว่างั้นขอพรก็ได้!
(คิดในใจมาถึงที่นี่ต้องได้สักอย่างแหละหนา)
ท่านก็บอกว่า ไม่มีหรอกพร..อยากได้ต้องทำเอง!
โลกนี้มีเหตุและผล มีแค่เรื่องของกรรมและผลของกรรม
จากนั้นท่านก็มัดมือด้วยเส้นด้ายสายสินจ์
หรือเส้นกำไรอะไรสักอย่าง ดิฉันจำไม่ค่อยได้
หลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาค้นคว้า
เรื่องของการอฐิษฐานขอพร
ว่ามันเป็นยังไงกันแน่
เสียงที่เราขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ท่านได้ยินไหม…เราไม่รู้ !!
แต่ที่เรารู้ คนที่ได้ยินแน่นอน 100 %
คือตัวเราเอง !
หลวงพ่อปราโมท ปราโมทโช
ท่านเทศน์สอนว่า
ไม่ต้องไปเที่ยวขอพรที่ไหนหรอก
เพราะความจริงคนที่บัลดาลทุกอย่าง
คือตัวเราเอง!
ถ้าอยากเจริญก็ต้องสร้างเหตุแห่งความเจริญ
ถ้าอยากรวยก็ต้องสร้างเหตุแห่งความร่ำรวย
เราคือผู้บัลดาลเองไม่มีใครให้พรเราได้
นอกจากพรที่เราให้กับตัวเอง
สำหรับประวัติของครูบาแสงหล้า ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุสายเมือง ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา มีลูกศิษย์ทั้งในประเทศและเมียนมามากมาย
ถ้าใครยังจำได้ท่านยังเป็นเกจิอีกท่านหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการทำพิธีเปิดถ้ำช่วย 13 หมูป่าให้รอดชีวิตจากดอยนางนอน
ท่าน
เป็นพระเถระสายล้านนาที่ปฏิบัติวิปัสสนาเคร่งครัด ทำให้มีภูมิธรรมสูง บารมีมาก มีครบทั้งปัญญาและอภิญญาอีกรูปหนึ่ง
เกียรติคุณถึงผลงานอันเป็นวัตรปฏิบัติของพระรัตนรังษี หรือ พระครูบาแสงหล้า ธมฺมสิริ ว่า เป็นพระสงฆ์ มีวัตรปฏิบัติที่งดงาม ครองตนอยู่ในพระวินัย เป็นพระนักพัฒนาที่มีแนวทางในการจะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนทุกชาติพันธุ์ในพม่า
โดยเฉพาะชาติพันธุ์เชื้อสายไทยใหญ่ ได้อุทิศแรงกายแรงใจและกำลังทรัพย์ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ผู้ด้อยโอกาสทุกระดับรวมทั้งทำนุบำรุงด้านพระศาสนา เป็นที่ประจักษ์แก่ชนชาติต่างในพม่า อีกทั้งยังได้สร้างโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง เพื่อการดูแลสุขภาพประชาชนในเขตเมืองท่าขี้เหล็กและใกล้เคียง
นอกนี้ยังได้สร้างที่พักคนชรา ผู้พิการ เป็นที่พักอาศัยและดูแลผู้ยากไร้โดยไม่แบ่งเชื้อชาติ ทางด้านการศึกษา ยังได้ส่งเสริมการศึกษาให้แก่ประชาชนและพระสงฆ์ โดยการสร้างโรงเรียนอีกหลายสิบแห่งเพื่อเป็นการสร้างคนให้มีโอกาสพัฒนาคุณภาพตนเอง
สำหรับพระครูบาแสงหล้านี้ ต่างเป็นที่เคารพศรัทธาในบุญญาบารมี หรือแม้แต่เรื่องความเชื่อในพุทธคุณต่างๆ เป็นที่เลื่องลือของศาสนิกชนในเขตอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมานานแล้ว
ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ จาก พม่า ไทย ลาวและจีน ซึ่งจะเห็นได้จากศรัทธาในการทำบุญแต่ละครั้ง และยังเป็นพระสงฆ์ที่ผู้เลื่อมใสศรัทธามากที่สุดในเขตลุ่มแม่น้ำโขง
และท่านยังมีพระลูกศิษย์ที่มีชื่อที่หลายคนรู้จัก คือ พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร เกจิอาจารย์ชื่อดังในย่านนี้ ซึ่งในวันทำพิธีฯ ก็มาร่วมพิธี อีกทั้งพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่จากเชียงตุงหลายสิบรูป และฝั่งไทยอีกด้วย
เล่าโดย…มายทาม คณพศ
อ่านต่อ – วิธีคิดดับความทุกข์ แก้เครียด แก้ปวดหัว